• หน้าแรก
  • ผลิตภัณฑ์
  • โปรโมชัน
  • เพลินจิต
  • ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
สุขภาพและความสวย

อาหารอะไรเอ่ย? ยิ่งกิน ยิ่งแก่

วันที่เผยแพร่: 01 มิ.ย. 66

วันนี้ ทางกรุงศรีโบกเกอร์ อยากชวนมาดูแลสุขภาพจากผิวพรรณของเรากันค่ะ แน่นอนว่าสมัยนี้ถ้าเราอยาก หนีความแก่” เราก็จะเข้าไปคลินิกเสริมความงามกัน ไม่ว่าจะฉีดเอย ใช้เครื่องมือเพื่อลดความหย่อนคล้อยเอย การศัลยกรรมตกแต่งเอย หรือบางท่านก็หาครีม เซรั่มแพง ๆ มาบำรุง สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยเราได้ดีที่สุด คือการเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์

อาหารนั้นถือเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ ที่ช่วยบำรุงร่างกาย รวมถึงช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเต่งตึงไม่เหี่ยวย่น อาหารบางชนิดก็มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีคอลลาเจน ช่วยให้เรายังดูสาวสดใส แต่เมื่อมีอาหารที่ช่วยบำรุงผิวแล้ว ก็ยังมีอาหารบางชนิดที่ทำร้ายผิวและร่างกายของเราเช่นเดียวกัน มักจะมีสารเร่งแก่แฝงอยู่ ทำให้เรายิ่งกินยิ่งแก่ ดูอายุมากกว่าความเป็นจริง โดยคุณ วนะพร ทองโฉม เป็นนักวิชาการฝ่ายโภชนาการ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้จัดกลุ่มของอาหารที่ยิ่งกินยิ่งแก่ โดยมีกลุ่มอาหารที่ทำลายสุขภาพ แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้ดังนี้ค่ะ

โดยกลุ่มแรกคือ เครื่องดื่ม กลุ่มน้ำตาลสูง

กลุ่มแรก ก็คือ น้ำตาลทรายขัดขาว การได้รับน้ำตาลนั้นมากเกินไปจะทำให้แก่เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ ชานมไข่มุก น้ำหวานต่าง ๆ ที่เราชอบดื่มกัน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นค่อนข้างที่จะมีน้ำตาลมากเกินไป และเมื่อร่างกายเราไปจับกับโปรตีน ทำให้เกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่น ก่อให้เกิดสารเร่งแก่ ที่เรียกว่า Advanced Glycation End Products (AGEs) ซึ่งตรงนี้มันจะทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่มากเกินไป คอลลาเจนขาดความยืดหยุ่น อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรานั้นแก่เร็วนั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ตามเราควรรับประทานน้ำตาลให้เหมาะสม คือ 10% ของพลังงานที่เราใช้ทั้งวัน คือ ไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน เฉลี่ย 2 ช้อนชาต่อมื้อนะคะ หากเราลดได้ก็ทำให้เรานั่นมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นนะคะ

กลุ่มที่ 2 คือ อาหารกลุ่มปิ้ง ย่าง ทอด

เป็นกลุ่มปิ้งย่าง และอาหารทอด เป็นอะไรที่แอดมินชอบมากเลยละค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ไก่ทอด หมูทอด หมูย่างเกาหลีเอย หมูกระทะเอย ซึ่ีงอาหารเหล่านั้นเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดสารเร่งแก่ขึ้น เช่น ไก่ทอดมีสารเร่งแก่มากกว่าไก่ต้ม 9 เท่า ส่วนเฟรนช์ฟรายมีสารเร่งแก่มากกว่ามันฝรั่งต้ม มากถึง 90 เท่า หากเพื่อน ๆ ถ้าจะทานของทอดให้หลีกเลี่ยงกระบวนการทอดที่ซ้ำ ส่วนอาหารปิ้งย่างให้ใช้ใบตองหรือแผ่นฟอยล์ห่อหุ้มเนื้อสัตว์ก่อนนำไปย่าง เพื่อลดอนุมูลอิสระและสารก่อมะเร็งที่มาจากคราบเขม่าไหม้ดำ หากต้องการปรุงอาหารแนะนำให้ใช้อุณหภูมิความร้อนพอดี ๆ ไม่ร้อนจัด เน้นการปรุงแบบต้ม นึ่ง ผัด ก็จะช่วยป้องกันทั้งสารก่อมะเร็ง และสารเร่งแก่ได้อย่างแน่นอนค่ะ

กลุ่มที่ 3. คืออาหารกลุ่มที่มีไขมันสูง ไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์

อาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันทรานส์ ได้แก่ เนยขาว มาการีน ครีมเทียม นมข้นหวาน นมข้นจืด โดนัท ขนมเค้ก พาย คุกกี้ เฟรนซ์ฟรายส์ ไก่ทอด ป๊อปคอร์น แฮมเบอร์เกอร์ ขนมกรุบกรอบ ถือว่าเป็นไขมันทรานส์ทั้งนั้น รวมถึงไขมันอิ่มตัว คือ ไขมันจากสัตว์ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม กะทิ อาหารเหล่านี้จะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ภาวะการอักเสบภายในร่างกาย และเป็นตัวการกระตุ้นให้เกิด สารเร่งแก่ ได้มากเช่นกัน

นอกจากนี้ก็ยังมีพวกไขมันอิ่มตัวแฝง ก็คือ เนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ เช่น ไส้กรอก หมูยอ แฮม เบคอน กุนเชียง ฯลฯ ไขมันเหล่านี้จะแทรกซึมลงไปตามเซลล์ผิวหนังของเรา ทำให้ผิวหนังของเราได้รับประโยชน์ได้ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความแก่ขึ้นมาได้ คำแนะนำสำหรับการทานอาหารจำพวกไขมัน คือ ให้ทานได้ไม่เกิน 30% ของพลังงานทั้งวัน หรือคิดง่ายๆ คือ ไม่ควรบริโภคน้ำมันเกิน 6 ช้อนชา ต่อ 1 วัน เฉลี่ย 2 ช้อนชาต่อมื้อค่ะ

และควรเลือกรับประทานน้ำมันที่มีคุณภาพ เป็นกลุ่มน้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา น้ำมันเมล็ดชา เป็นต้น

กลุ่มที่ 4. คือ กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มชนิดนี้ผลิตจากวัตถุดิบที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลมาหมัก และเติมยีสต์ลงไปเพื่อให้ยีสต์กินน้ำตาลที่อยู่ในวัตถุดิบ และเปลี่ยนให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ ในทางโภชนาการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั้นถือเป็นพลังงานว่างเปล่า เป็นเครื่องดื่มที่มีเอทิลแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ได้แก่ สุรา หากเราดิื่มเข้าไปแล้วร่างกายไม่สามารถเอามาใช้เป็นพลังงานได้ พอใช้ไม่ได้ มันก็เปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย ซึ่งไขมันสะสมนี้ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำให้เกิดอนุมูลอิสระมากเกินไป ความแก่ก็จะค่อย ๆ ถามหาเราทันทีค่ะ 

นอกจากนี้ แอลกอฮอล์จะไปขัดขวางการดูดซึมวิตามิน แร่ธาตุ ที่มีประโยชน์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเหล่านั้นไม่ได้ ก็ยิ่งทำให้เกิดอนุมูลอิสระมากขึ้นไปอีก ดังนั้นถ้าใครยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นประจำก็จะยิ่งทำให้แก่เร็วนะคะ ทางที่ดีที่สุดนาน ๆทีดื่ม หรือไม่ดื่มเลยก็น่าจะดีกว่านะคะ ช่วยรักษาสุขภาพ ทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และหน้าตาสดใสอีกด้วยค่ะ

 

อาหารกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มอาหารหมักดอง

การหมัก หมายถึง การนำเอนไซม์ที่ผลิตจากยีสต์ รา และแบคทีเรียบางชนิดเข้าไปเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางอินทรีย์ในอาหาร ทำให้รสชาติ กลิ่น และสีของอาหารนั้นๆ เปลี่ยนไปจากเดิม ส่วนการดอง คือการนำอาหารไปแช่ในน้ำเกลือที่มีค่าเป็นกรดหรือน้ำส้มสายชู เพื่อให้มีรสเค็มหรือรสเปรี้ยว เช่น การดองไข่เค็ม หรือผักดองบางชนิดรวมถึงอาหารที่มีการปนเปื้อนสารตะกั่ว เช่น อาหารริมทางที่ไม่มีภาชนะคลุมปิดให้มิดชิด เมื่อร่างกายได้รับเข้าไปแล้ว ร่างกายเกิดกระบวนการกำจัดสารพิษ ซึ่งกระบวนการนี้จะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระสูง เป็นสาเหตุของการแก่เร็วนั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครอยากแก่และสุขภาพไม่ดีมาพร้อม ๆ กัน แอดมินอยากขอให้ทุกคนใส่ใจในการทานอาหารกันมากขึ้น ค่อย ๆ ปรับนิสัยการทานไปเรื่อย ๆ และไม่ต้องรีบเคี้ยว เน้นทานผักสีเขียว ทานอาหารทีมีประโยชน์ เลี่ยงการทานอาหารที่มีรสจัด ปรุงน้อย ๆ ดีที่สุดค่ะ และหากเราอยากมีตัวช่วยในการดูแลตัวเอง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล กับโรคหรือการเจ็บป่วยที่เรามิอาจคาดเดาได้ในอนาคต แอดมินขอแนะนำ ประกันสุขภาพจากกรุงศรีโบกเกอร์ มีหลากหลายแบบ ทั้งแบบเหมาจ่ายและแบบ Top-up และหลายเบี้ยประกันให้เพื่อน ๆ ได้ศึกษาและเลือกซื้อเลยค่ะ https://www.krungsribroker.com/product-health-insurance?utm_source=kgib_website&utm_medium=icon_menu&utm_campaign=health  

ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจทำประกันตัวใดก็แล้วแต่ แอดมินแนะนำให้ศึกษาแผนประกันอย่างละเอียด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ kgibsales@krungsri.com การพิจารณารับประกันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯโปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยนะคะ ด้วยรักเป็นห่วง😊

 

เขียนโดย NANA

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/1419931

https://women.trueid.net/detail/v2M6MmdznGo8