• หน้าแรก
  • ผลิตภัณฑ์
  • โปรโมชั่น
  • เพลินจิต
  • ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์

เตรียมความพร้อม ต้อนรับเทศกาลกินเจ ปี 2565

วันที่เผยแพร่: 01 ก.ย. 65

สำหรับการรับประทานเจในช่วงแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ แน่นอนว่ายังคงต้องยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อย่างเคร่งครัด เทคนิคแนะนำเพิ่มเติมก็คือไม่ควรซื้ออาหารเจที่ทำเสร็จอยู่ก่อนแล้ว ควรซื้อจากร้านที่ปรุงสุกใหม่ ๆ เพื่อความปลอดภัยซึ่งเชื่อว่าร้านอาหารทั้งหลายก็จำเป็นต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน รวมถึงการซื้อไปรับประทานที่บ้านแทนนั่งทานในร้าน  นอกจากนี้สำหรับคนที่พอมีเวลาอาจเลือกซื้อวัตถุดิบมาปรุงรับประทานเองที่บ้านก็ได้เช่นกัน

น้อง Fuku จะมาแนะนำ วิธีการกินเจ  ที่ได้ประโยชน์  อิ่มทั้งใจ อิ่มทั้งกาย  ให้ทุกท่านได้ทราบกันนะคะ

เทศกาลกินเจ คืออะไร ตรงกับวันไหน

เทศกาลกินเจเชื่อกันว่าเกิดขึ้นมานานตั้งแต่เมื่อ 400 ปีที่แล้ว มีขึ้นเมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 9 โดยคำว่า “เจ” เป็นภาษาจีนแต้จิ๋วหมายถึง การรักษาศีล 8 และการละเว้นการกินเนื้อสัตว์เพื่อถวายสักการะแก่พระราชาธิราชทั้ง 9 พระองค์ กล่าวคือ การละเว้นของคาวและอาหารที่มีกลิ่นฉุน, งดเว้นอาหารรสจัดทั้งหลาย, รักษาศีล 8 ทั้งกาย วาจา ใจ, เว้นการเอาชีวิตสัตว์มาบำรุงชีวิตตน, เว้นการเอาชีวิตสัตว์มาเพิ่มเลือดตน, และเว้นจากการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าตามตำนานอีกหลายเรื่องราวเกี่ยวกับเทศกาลกินเจ ซึ่งแต่ละตำนานก็มีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามการกินเจ วัตถุประสงค์หลักคือการถือศีล ละเว้นเนื้อสัตว์เพราะถือเป็นศีล 5 ในพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพ ให้ร่างกายได้กำจัดสารพิษ รักษาสมดุลของร่างกาย

ซึ่งในปีปฏิทินนี้ เทศกาลกินเจ 2565 ปีจะตรงกับวันที่ 24 กันยายน – 3 ตุลาคม 2565 รวมทั้งสิ้นเป็นระยะเวลา 9 วัน อย่างไรก็ตามหากนับวันล้างท้องรวมด้วย ก็จะ รวมแล้ว 10 วันนั่นเอง

กินเจต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

1. ห้ามกินเนื้อสัตว์ หรืออาหารที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ
2. ห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หัวหอม กุยช่าย ใบยาสูบ กระเทียมโทน
3. ห้ามเสพสิ่งมึนเมา งดสูบบุหรี่ กินเหล้า
4. ห้ามกินอาหารรสจัด
5. ห้ามกินอาหารที่คนปรุงไม่ได้ถือศีลกินเจ
6. ถ้วยชามต้องแยกต่างหากจากคนทั่วไป
7. แต่งกายชุดขาว
8. รักษาศีลห้า ไม่ฆ่าสัตว์ รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์
9. ไม่พูดคำหยาบ ส่อเสียด โกหก เพ้อเจ้อ

อาหารที่ทานได้

1. ชา กาแฟ ที่ไม่ใส่นม เนย หรือครีมเทียม

2. วิตามินเสริมอัดเม็ด ที่ไม่มีสารสกัดจากสัตว์

3. ขนมกรุบกรอบ ที่ไม่มีส่วนผสมของสัตว์

4. พริกไทย เป็นสมุนไพร (แต่หากรู้สึกว่ามีกลิ่นฉุน สามารถเลี่ยงได้)

5. ขนมปัง (ที่เป็นขนมปังเจ หรือไม่มีส่วนผสมของนม)

6. มาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (สูตรเจเท่านั้น)

7. แต่งหน้า และฉีดน้ำหอม (สำหรับคนถือศีล 5 หากถือศีล 8 จะทำไม่ได้)

อาหารที่ทานได้ แต่ไม่แนะนำ

  1. น้ำอัดลม (ไม่มีข้อห้าม แต่น้ำตาลสูงเกินไป)
  2. ผงชูรส (แม้จะทำจากมันสำปะหลังและกากน้ำตาลจากอ้อย แต่ผงปรุงรสอาหารอื่นๆ มักผสมเนื้อสัตว์)
  3. ช็อคโกแลต (ส่วนใหญ่มีนมเป็นส่วนผสม แต่หากทานดาร์คช็อคโกแลต 100% ก็สามารถทำได้ แต่หายาก)

ประโยชน์ของการกินเจ

1. อวัยวะภายในหยุดพักทำงานหนัก

อาหารเจจะเน้นด้านโปรตีนจากพืช คาร์โบไฮเดรต ผักและผลไม้ ซึ่งย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ ทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ไม่ต้องทำงานหนัก

2. ผิวพรรณผ่องใส

ร่างกายได้รับสารอาหารจากผักผลไม้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสดูดีขึ้น ลดการผลิตเหงื่อและน้ำมันใต้ผิวหนัง

3. ช่วยดีท็อกซ์

เนื่องจากอาหารเจทำจากวัตถุดิบประเภทผักและแป้งเป็นหลัก เมื่อเราเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีใยอาหารสูงร่วมกับผัก ระบบการย่อยอาหารจะทำงานมีประสิทธิภาพดี ช่วยขับถ่ายของเสียที่ตกค้างในร่างกายได้เป็นอย่างดีแน่นอน

 

 

4. ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง

การรับประทานเนื้อสัตว์เป็นประจำนั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง อันเนื่องมาจากกระบวนการต่าง ๆ โดยเฉพาะสารเร่งเนื้อแดง สารเร่งโต และสารเคมี ซึ่งแตกต่างจากพืชที่มีส่วนช่วยในการย่อยอาหารและขับถ่ายดีกว่า

5. สุขภาพจิตดีขึ้น

การกินเจมักจะมาพร้อมกับการถือศีลและทำบุญ จึงทำให้เรารู้สึกสบายใจและมีความรู้สึกดีต่อตัวเอง อีกทั้งผักและผลไม้บางชนิดสามารถกระตุ้นสารเคมีในสมองที่ช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้

 

กินเจอย่างไรไม่ให้อ้วนและสุขภาพดี

หลายคนอยากเริ่มรับประทานเจดูบ้างด้วยเหตุผลมากมาย บ้างก็อยากทำบุญ บ้างก็เพื่อสุขภาพ แต่บ้างคนก็กลัวว่าจะอ้วนเนื่องจากต้องรับประทานแต่ผักและแป้งติดต่อกันทุกมื้อเป็นระยะเวลาหลายวัน แถมกลัวจะป่วยเพราะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ซึ่งสำหรับใครที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เรามีวิธีกินเจให้สุขภาพดีและไม่อ้วนมาฝาก

1. เลือกทานพืชตระกูลถั่ว และเต้าหู้เพื่อชดเชยโปรตีนจากเนื้อสัตว์
2. เลือกทานเป็นข้าวกล้องมากกว่าข้าวขาวเพื่อวิตามินที่มากกว่า
3. หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์เลียนแบบให้มากที่สุด เพราะทำมาจากแป้งเป็นส่วนใหญ่
4. เลือกทานผักผลไม้สด มากกว่าของหมักดองเพราะจะทำให้ตัวบวมเนื่องจากมีโซเดียมสูง
5. เน้นรับประทานอาหารประเภท ย่าง-นึ่ง-ต้ม มากกว่าอาหาร ผัด-ทอด

ถึงแม้การกินเจ จะดูเป็นเรื่องยากสำหรับคนชอบทานเนื้อสัตว์ แต่เราเชื่อว่าหากคุณได้ลองกินเจแล้ว นอกจากสุขภาพที่จะดีขึ้นอย่างทันตาเห็นแล้ว ยังอิ่มบุญอิ่มใจจากการถือศีล และหากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย ยังได้ผิวพรรณที่ดี และหุ่นสวยหล่อเพอร์เฟ็คแน่นอน ใครยังไม่เคยก็ลองกินเจปีนี้เป็นปีแรกกันดูนะคะ รับรองว่าจะต้องติดใจจนไม่อยากหยุดกินเจแน่นอน

นอกเหนือจาก  เราจะงดเนื้อสัตว์  รับประทานผักผลไม้  ออกกำลังกายแล้ว น้อง Fuku อยากให้ทุกท่าน  มองหาประกันสุขภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมไว้รับมือกันไว้แต่ต้นๆ นะคะ  หากท่านไหนสนใจ ลองเข้ามาเลือกดูความคุ้มครองต่างๆ ตาม Link นี้ได้เลยคะ

 https://www.krungsribroker.com/health-insurance

 

แหล่งที่มา :

https://www.thestreetratchada.com/Blogs/29/Chinese-Vegetarian-Festival

https://promotions.co.th/

https://www.sanook.com/health/1429/

บทความโดย : น้อง Fuku