• หน้าแรก
  • ผลิตภัณฑ์
  • โปรโมชั่น
  • เพลินจิต
  • ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์

รีวิวเที่ยว Shanghai ด้วยตัวเอง 5 วัน 4 คืน วิวหลักล้าน อาหารอร่อย

วันที่เผยแพร่: 01 มี.ค. 67

ฉลอง “เที่ยวจีน ฟรีวีซ่า” สำหรับคนไทยกันซักทริปมั้ยคะ ><  ใครที่อยากลองไปเที่ยวจีนซักครั้ง แต่ไม่รู้จะไปเมืองไหนดี ภาษาจีนก็ไม่ง่ายเลย :D ขอแนะนำให้ลองเปิดใจเที่ยวเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) รับรองว่าประทับใจจนอยากกลับไปอีก วันนี้แอดมิน LEDYNENA จาก กรุงศรี เจเนอร์รัล อินชัวร์รัน โบรคเกอร์ จะมารีวิวเที่ยวเซี่ยงไฮ้ด้วยตัวเองชิล ๆ 5 วัน 4 คืน พร้อมมุมถ่ายรูปสุดปัง และแนะนำร้านอาหารจีนเมืองเซี่ยงไฮ้ที่อร่อยเกิดคาด พร้อมคำแนะนำการเดินทางอย่างอุ่นใจด้วยการมีประกันเดินทางต่างประเทศที่คอยคุ้มครองคุณตลอดทริป

 

ก่อนออกทริปเซี่ยงไฮ้ ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง

1. จองตั๋วเครื่องบิน

เราเดินทางช่วงต้นเดือนธันวาคม 2566 ด้วยสายการบิน Spring Airline เป็นสายการบินสัญชาติจีน บินตรงถึงเซี่ยงไฮ้ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงกว่า เป็น Low cost airline ที่เราประทับใจการบริการของพนักงานต้อนรับระดับนึงเลยค่ะ

ขาไป Flight เช้า 8.40 – 14.00 น. พอถึงแล้วเที่ยวต่อได้เลย

ขากลับ Flight เย็น 17.25 – 21.10 น. เรา check out ตอนเช้าแล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ออกไปเที่ยวก่อนกลับได้สบาย ๆ 

เผื่อใครสนใจลองเช็คราคาตั๋วหรือติดต่อสายการบินได้ตามนี้เลย >> Spring Airlines (Thailand Office) Mon – Fri at 09:00 – 17.30 Tel: 022456929 / 022456930 Website: https://th.ch.com

2. จองโรงแรม

          เราเลือกโรงแรมที่ Location ดีงาม เดินทางสะดวก เดินออกมาก็เจอร้านอาหาร ร้านกาแฟทันที :D เลยตัดสินใจเข้าพักที่โรงแรม Jinjiang Inn Select (Shanghai Nanjing Road Pedestrian Street) ราคาโดยเฉลี่ยหลังได้รับส่วนลด 2,000 บาทต่อคืนเอง

3. Roaming / China Sim card

        เราแนะนำให้เลือกเปิด Roaming เบอร์ไทย หรือซื้อ Sim2Fly / Travel SIM ถึงจะสามารถใช้ Line Facebook Instagram YouTube Google Map ได้ปกตินะคะ หรือใครสะดวกซื้อ China 4G Sim card เครือข่าย China Unicom ที่สนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง ก็มีให้เลือก แต่เครือข่ายของจีนจะบล็อกการใช้แอปพลิเคชั่นด้านบนนะ

4. พาสปอร์ต 

         ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน แถมตอนนี้ไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว เราสามารถเที่ยวอยู่ที่ประเทศจีนได้นานสูงสุด 30 วันต่อการเดินทาง 1 ครั้ง

5. แลกเงินหยวน 

เซี่ยงไฮ้เมือง cashless society พกเงินหยวนนิดเดียวพอ

6. แอปพลิเคชั่นที่ต้องดาวน์โหลดก่อนเดินทาง

  • Google Translate ถ้าเราพูดจีนไม่ได้ หรือเราพูดภาษาอังกฤษไป ก็อาจจะไม่เข้าใจเราทุกคน คนจีนในเซี่ยงไฮ้ใช้แอปแปลภาษาคุยกับนักท่องเที่ยวได้คล่องมาก ๆ หายห่วงเรื่องภาษาได้เลย 
  • Apple Map จำเป็นมากๆยิ่งเราเที่ยวเองต้องมีไว้ค่ะ ส่วน Google Map บางสถานที่จะไม่อับเดท เพราะที่จีนบล็อกอากู๋ เราสลับใช้ทั้ง 2 แอปเลย
  • Alipay ไม่ว่าจะร้านเล็กร้านใหญ่ ค่ากินค่าเดินทางรถสาธารณะทุกชนิด เรื่องจ่ายเงินง่ายนิดเดียว แค่ผูกบัตรเครดิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ในแอป เวลาจ่ายก็แค่แสกน ตี๊ดเดียวเท่านั้น ขั้นตอนสมัคร Alipay และผูกบัตรก็ง่ายมาก  
  • Metro Man เราเดินทางไปที่ต่างๆโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ Metro Shanghai เป็นหลัก ครอบคลุมทุกเส้นทางทั่วเมือง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3 หยวน คิดเป็นเงินไทย 15 บาท ถูกมาก และยังช่วยคำนวนหาเส้นทางที่ประหยัดเวลาที่สุดให้เราได้ ซื้อบัตรโดยสารได้ตามสถานีได้เลย ตู้ซื้อบัตรเค้ามีภาษาไทยด้วย
  • Shanghai Disneyland Resort ที่รวมรายละเอียดที่จำเป็นเมื่อเที่ยวในสวนสนุก เช่น แผนที่ waiting time fast pass เป็นต้น 

 

 

7. ประกันเดินทาง 

     ไม่ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหน เราซื้อทุุกครั้ง สำหรับทริปนี้เราซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ MSIG Travel Easy ค่าเบี้ยหลักร้อยเอง

     พอเตรียมตัวเรียบร้อย ก็ต้องหาที่สวยๆ ถ่ายรูปลงโซเชียลซักหน่อย หากใครเป็นสายเที่ยวสบาย ไม่อยากลำบาก เซี่ยงไฮ้หรือเมือง “ไข่มุกแห่งตะวันออก” ตอบโจทย์มาก โดยเมืองเซี่ยงไฮ้มี 2 ฝั่งนะคะ คือฝั่งเมืองเก่า ผู่ซี่ (Puxi) และฝั่งเมืองใหม่ ผู่ตง (Pudong) ซึ่งเป็นย่านธุรกิจและการเงินที่สำคัญ โดยมีแม่น้ำหวงผู่ (Huangpu River) เป็นตัวแบ่งฝั่ง ทีนี้เราคัดจุดถ่ายรูปเด็ดๆมาให้

 

สถานที่ไฮไลท์ที่ต้องไป

 

เดอะบันด์ (The Bund)

เดอะบันด์ (The Bund) หรือ ว่ายทาน (Waitan) เป็นจุดชมวิวและทางเดินยาวเลียบแม่น้ำหวงผู่ (Huangpu River) เดินชมวิวริมแม่น้ำได้ชิลๆ ถ้าอยากได้รูปมีฉากหลังเป็นหอคอยไข่มุกงามๆแบบเรา :D ให้เดินไปที่สะพาน Waibaidu Bridge ถ้าหันหน้าเข้าหอไข่มุก สะพานจะอยู่ทางซ้ายมือ เดินไม่นานก็ได้เก็บภาพสวยๆแล้วค่ะ อิอิ

  • ช่วงเวลาที่ควรไป : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แอดมินไปช่วงต้นธันวาคม อุณหภูมิ 3 -11 องศา อากาศเย็นสบาย
  • วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 ลงสถานี East Nanjing แล้วเดินต่อไปประมาณ 650 เมตร
  • หากใครอยากข้ามไปฝั่งหอไข่มุก ให้นั่งอุโมงค์ Bund Sightseeing Tunnel ซื้อตั๋วล่วงหน้าจาก Klook เราจะได้ E-Ticket เป็น QR Code สะดวกสุด ๆ 

Shanghai Disneyland

เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ถือเป็นสวนสนุกดิสนี่ย์แลนด์ใหม่ล่าสุดและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากที่ออเรนโด้ ฟลอริด้า เราใช้เวลา 1 วันเต็มเที่ยวเล่นอยู่ในดิสนีย์แลนด์ วันเดียวเกือบไม่พอ :D 

เราซื้อบัตรผ่านเว็บ KLOOK ล่วงหน้า เค้ามีส่วนลดประจำเดือนจากเว็บไซต์ด้วยนะ พอไปถึงทางเข้าก็เปิด Klook แสดง QR Code ให้เจ้าหน้าที่สแกน แล้วเราจะได้ตั๋วกระดาษเป็นที่ระลึก ที่นี่มี 6 Theme Park ด้วยกันค่ะ ทั้ง Mickey Avenue, Tomorrow land, Adventure Isle, Garden of Imagination, Treasure Cove และ Fantasyland โซนโปรดของเราคือปราสาทเจ้าหญิงดิสนีย์ เดินจากทางเข้าลึกหน่อยนึง แต่ได้มุมถ่ายรูปสวยไม่แพ้ใครแน่นอน และไฮไลท์เครื่องเล่น TRON Lightcycle Power Run รถไฟเหาะที่ออกแบบเป็นมอเตอร์ไซค์ เหมือนอยู่ในโลกอนาคต และที่ประทับใจอีกอย่างคือดอกไม้และสวนที่นี่สวยมากๆ รู้เลยว่าดูแลดี ถ่ายรูปเพลินไปเลย ><

  • เวลาเปิดให้บริการ : 8.30 - 21.30 น. แนะนำให้ไปแต่เช้า คิวทางเข้าสวนสนุกจะไม่ยาวมาก แล้วอยู่ได้ทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย
  • วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 11 ลงสถานี Disney Resort สถานีปลายทาง 
  • ปักหมุด : https://maps.app.goo.gl/2rLmWvqF8EUzJi4g6 

ร้าน Lai Lai Xiaolong 

     เรามาดูอาหารอร่อยๆกันบ้าง ไปถึงเซี่ยงไฮ้ทั้งที ต้องกิน Crab Xiao Long Bao ร้าน Lai Lai Xiaolong เป็นร้านเล็กๆย่าน Nanjing Road ในร้านมีห้องนึ่งเสี่ยวหลงเปาให้ดูกันเลย เราชอบ texture ของมันมาก ที่ร้านนึ่งในระยะเวลาพอดี แป้งบางนุ่ม เคี้ยวง่าย เวลากินต้องกินทั้งคำให้ลิ้นสัมผัสน้ำซุปและเนื้อปูข้างในแบบเต็มๆ ไก่ทอดร้านนี้ก็เด็ดเช่นกัน กรอบนอกนุ่มใน เป็นเมนูที่เห็นสั่งกันทุกโต๊ะจริง ๆ :) ส่วนมากร้านอาหารที่เซี่ยงไฮ้จะไม่มีน้ำให้ แนะนำให้พกน้ำเปล่าไปเองนะคะ 

  • เวลาเปิด-ปิดของร้าน Lai Lai Xiaolong : 8:00 - 14:00 น. และ 15:00 - 20:00 น.
  • วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 ลงสถานี People's Square
  • ปักหมุด : https://maps.app.goo.gl/rh9kxTLwpfbdvY8E8 


    ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับแล้ว...ทั้งหมดนี้ก็เป็นรีวิวเที่ยวจีนครั้งแรกของเรา การเดินทางแต่ละครั้งเหมือนเป็นการได้เก็บประสบการณ์ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคนแต่ละที่ ก็อิ่มทริปกันไป แต่...เดี๋ยวก่อน ทริปจบแต่เรายังไม่จบ... ฮ่าๆๆ

     พอกลับถึงกรุงเทพฯปุ๊ป เราก็ได้ของฝากเป็นไข้หวัด คออักเสบ และเป็นอาการป่วยต่อเนื่องจากทริป ดีที่ทำประกันเดินทางต่างประเทศไว้ ชีวิตคนป่วยก็ easy ขึ้นหน่อย หาหมอ รับยา กลับไปพักผ่อนที่บ้าน โดยไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเลย เพราะประกันเดินทางคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเจ็บป่วยแค่ไหน ซื้อประกันเดินทางต่างประเทศไว้เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ ค่าเบี้ยไม่แพง แต่ค่ารักษาแพงกว่ามาก ป่วยแล้วก็เคลมได้จริง แค่นี้ก็อุ่นใจแล้วค่ะ ขอแนะนำ “ประกันเดินทางต่างประเทศ Travel Easy MSIG” ช่วยคุ้มครองคุณและครอบครัวตลอดทริป พร้อมรับเครดิตเงินคืน 10%

 

คลิกเลย >> https://psmart.msig-thai.com/krungsriconsumer/travel?utm_source=kgib_website&utm_medium=product_landing&utm_campaign=travel_msig  

 

ก่อนตัดสินใจทำประกัน แอดมินแนะนำให้ศึกษาแผนประกันอย่างละเอียด เช่น ความคุ้มครองที่จะได้รับ เงินชดเชย เบี้ยประกัน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ kgibsales@krungsri.com ทางเรายินดีให้คำปรึกษาค่ะ เราไม่มีทางรู้ว่าการเดินทางจะราบรื่นตลอดทริปหรือไม่ จะป่วยตอนไหน จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อไหร่ การบริหารความเสี่ยงอย่างการทำประกันก่อนวันนั้นมาถึง ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล มีประกันเดินทาง ไว้อุ่นใจตลอดทริปดีที่สุด ด้วยความเป็นห่วงนะ ^^

 

เขียนบทความโดย LADYNENA

 

ขอบคุณข้อมูลดี ๆประกอบบทความจาก:

https://th.ch.com/

https://news.trueid.net/detail/V507n2rmAmrL