• หน้าแรก
  • ผลิตภัณฑ์
  • โปรโมชัน
  • เพลินจิต
  • ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
รอบรู้เรื่องประกัน
เรื่องเงินๆทองๆ

เทคนิคการวางแผนประกันให้เหมาะสม ปลายปีนี้

วันที่เผยแพร่: 01 พ.ย. 65

พอพูดถึงประกันทีไร คนส่วนใหญ่ก็หันหน้าหนี และคิดว่าจะซื้อทำไมมันเป็นภาระ จ่ายหลายปี จะเคลมเบิกผลประโยชน์สินไหมได้หรือเปล่า? แต่น้อง Fuku อยากจะบอกอะไรให้ว่า

“การมีประกันมากเกินไป มันคือภาระในระยะยาว แต่การไม่มีประกันชีวิตเลย มันคือหายนะ”

ดังนั้นเราควรวางแผนจัดสรรการมีประกัน ให้คุ้มค่าที่สุด  และไม่เป็นภาระของเราในอนาคต  น้อง Fuku จะมาแนะนำวิธีการจัดสรร เพื่อให้ทุกท่านลองใช้พิจารณากันนะคะ  

 

จริงๆ แล้ว ประกันคือ สินทรัพย์แห่งความรัก หรือ ความอุ่นใจ เราซื้อไว้เพื่อความสบายใจ ซึ่งหน้าที่หลักของประกันคือ ปกป้องความเสี่ยงและรักษาเงินต้นที่หามาได้ วันนี้น้อง Fuku มีเทคนิคการเลือกแผนประกัน เพื่อตอบโจทย์ 5 ความกังวลที่ทุกคนมี โดยหลักง่ายๆ ก็คือเรากังวลเรื่องอะไรก็ควรวางแผนประกันเพื่อช่วยลดภาระความกังวลนั้นลงไป

1.กังวลเรื่องการเก็บเงินในอนาคต

เราควรวางแผนด้วยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ และประกันชีวิตแบบบำนาญ ปัจจุบันคนไทยมีปัญหาเรื่องการเก็บเงิน โดยส่วนใหญ่พออายุ 60 ปี  ก็เกษียณแล้ว เงินก็แทบจะไม่มีเลย และรายได้ส่วนใหญ่ยังพึ่งพิงจากลูกหลาน ถ้าเรามีประกันแบบเก็บเงินอย่างสะสมทรัพย์และบำนาญ จะทำให้เรามีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคต เพื่อที่เราจะได้เกษียณอย่างมีความสุข  ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นภาระของลูกหลานอีกต่อไป

2.กังวลห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อเกิดความแน่นอน

เราควรวางแผนด้วยประกันสุขภาพและประกันเดินทาง เดี๋ยวนี้หากเราไม่ได้ทำงานข้าราชการ หรือไม่ได้มีสวัสดิการจากบริษัทที่ดี  เจ็บป่วยทีหนึ่ง ถ้าเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชน ค่ายา ค่าหมอและค่ารักษา ไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นนะคะ อีกทั้งถ้าไปต่างประเทศเกิดอุบัติเหตุใหญ่ขึ้นมา ค่ารักษาเป็นหลักแสนถึงหลักล้าน ซึ่งเบี้ยประกันสุขภาพและประกันการเดินทาง ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับความคุ้มครอง

3.กังวลความเสียหาย ต่อสินทรัพย์ที่เรามี

เราควรวางแผนด้วยประกันวินาศภัยรถยนต์ และที่อยู่อาศัย  อุบัติเหตุบนท้องถนน  หรือในตัวบ้าน  เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จริงๆแล้วโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงอาจจะมีน้อย แต่ถ้าเกิดแล้ว ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะสูงมาก อาจทำให้เงินที่เราเก็บสะสมมา อาจหายไปหมดเลยก็ได้ ดังนั้นเราควรจะพิจารณาทำประกันวินาศภัย เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินที่เรามีอยู่ด้วยนะคะ

4.กังวลห่วงทุพพลภาพ หรือบาดเจ็บหนักก่อนถึงวัยอันควร

เราควรวางแผนด้วยประกันทุพพลภาพ ประกันเงินชดเชยรายได้ ประกันโรคร้ายแรง ถ้าเกิดเหตุที่โชคร้ายมากๆ และร้ายแรงที่เข้ามาในชีวิต เช่น อุบัติเหตุหนัก จนถึงขั้นพิการ  หรือเกิดโรคร้ายแรง จะทำให้มีผลกระทบต่อการทำงานของเราแน่นอน นอกจากค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายแล้ว เราอาจจะต้องหยุดงานทำให้รายได้ของเราหายไป ดังนั้นเราควรวางแผนเงินชดเชย หรือการได้รับเงินก้อน หรือเงินชดเชยขณะที่เราหยุดงาน ถ้าเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น

5.กังวลการจากไปก่อนวัยอันควร

เราควรวางแผนด้วยประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือประกันชีวิตแบบควบการลงทุน  ความกังวลสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้อันอื่นเลย คือ ถ้าเกิดจากไปก่อนคนที่เรารัก บางคนเป็นผู้นำครอบครัว เป็นเสาหลักของบ้าน หากเกิดการสูญเสียชีวิต ครอบครัวจะสามารถอยู่ได้ไหม? ลูกจะมีทุนเรียบจบไหม? หนี้สินที่มีอยู่ ใครจะต้องรับผิดชอบต่อ? ดังนั้นเราควรจะมีทุนประกันให้เหมาะสมกับสิ่งเหล่านี้

สรุป ถ้าเรากังวลอะไรก็ควรพิจารณาทำประกันอันนั้นเป็นลำดับแรกก่อนคะ ภายใต้งบประมาณที่เหาะสม งตามหลักการวางแผนการเงินแล้ว แผนประกันความเสี่ยง ควรจะเริ่มอย่างน้อย 1-2 เดือน และข้อดีของการวางแผนประกันให้ถูกต้องแบบภาพรวมคือ

1.ตอบโจทย์ความกังวลที่มี

2.สร้างวินัยในการเก็บเงิน

3.มีเงินก้อนใช้ในอนาคต

4.ครอบครัวอุ่นใจ

5.ใช้สิทธิผลประโยชน์ทางภาษี

เพราะฉะนั้น  เพื่อการวางแผนที่ดีสำหรับสิ้นปี  น้อง Fuku ก็มีประกันชีวิตมาแนะนำให้ทุกท่านได้พิจารณา  "ประกันสะสมทรัยพ์ พรูแวลู เซฟวิงส์ 12/4"  จ่ายเบี้ย 4 ปี คุ้มครองนาน 12 ปี เงินคืนสูดสุด 10% รวมรับเงินคืน 445%  นอกจากจะได้ทั้งความคุ้มครองแล้ว ยังสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยนะคะ  พิเศษสุดสำหรับท่านที่ซื้อ ตั้งแต่วันที่ 11 - 13 พฤศจิกายน 2565  เรามีโปรโมชั่น 11.11  Cash Back x 2  รับเครดิตเงินคืน สูงสุด 5,000 บาท    หากท่านไหนสนใจ ลองเข้ามาเลือกดูความคุ้มครองต่างๆ ตาม Link นี้ได้เลยคะ

https://www.krungsribroker.com/saving124?utm_source=kgib_website&utm_medium=icon_menu&utm_campaign=pru_saving

แหล่งที่มา :

https://www.Finnomena.com

บทความโดย : น้อง Fuku