• หน้าแรก
  • ผลิตภัณฑ์
  • โปรโมชั่น
  • เพลินจิต
  • ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
รอบรู้เรื่องประกัน

ประกันมีมากมาย! แต่จะรู้ได้ไงว่าเหมาะสมกับช่วงวัยใด?

วันที่เผยแพร่: 16 ส.ค. 67

คำถามยอดฮิตที่แอดมินพบเจอบ่อยมาก ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อประกันคือ อายุช่วงนี้ เด็กวัยนี้ อายุเท่านี้ เท่านั้น ทำประกันอะไรดี อะไรที่เหมาะบ้าง? วันนี้แอดมิน กรุงศรีโบกเกอร์ ขอมาแจงแจ้งอย่างละเอียดเลยนะคะ ว่าแต่ละช่วงวัย อายุเท่าไหร่ ถึงเท่าไหร่เหมาะกับการทำประกันอะไรและแบบไหนบ้าง? ตอนนี้ทุกคนคงตระหนักและเห็นความสำคัญของการทำประกันมาบ้างแล้วจากโรคที่เราเจอ ๆ กัน หรือ คนรอบตัวเป็นกัน ไม่ว่าจะ โรคโควิด-19เอย โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก โรคเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือ โรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน เป็นต้น และโรคอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นโรคภัยอยู่รอบตัวเรา ทุกคนคงจะมีประกันคนละฉบับ หรือมากกว่า 2 แล้วก็ได้ เพราะประกันไม่ได้มีแค่ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตเพียงเท่านั้น  ยังมี.....ประกันอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัยสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ประกันเดินทาง หรือประกันอื่นๆ อีกมากมายที่เพื่อน ๆ ทุกคนคงจะมีเคยได้ทำประกันกันมาบ้างแล้ว เอาเป็นว่าวันนี้แอดมิน กรุงศรีโบกเกอร์ ขอมาพูดประกันที่ทุกคนควรจะต้องมีกันเลยนะคะ เริ่ม!!

 

วัยลูกน้อย (อายุแรกเกิด-5 ปี)

สำหรับลูกน้อย ในช่วงนี้อยู่ในวัยที่กำลังเริ่มเรียนรู้ มีพัฒนาการ แน่นอนเด็กในช่วงวันแรกเกิด-5 ปี หัดคลาน หัดเดิน มือหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ  ซึ่งร่ายกายในวัยนี้มีภูมิคุ้มกันน้อยมาก ๆ เสี่ยงต่อเชื้อโรค ไวรัสต่าง ๆ ในวัยเด็ก ซึ่งต้องมีการฉีดวัคซีนตามที่คุณหมอแนะนำอย่างสม่ำเสมอ และประกันที่จำเป็นเพื่อมาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กวัยนี้ได้แก่

  • ประกันสุขภาพ : เป็นลักษณะประกันสุขภาพเหมาจ่าย ดูค่าห้องให้เพียงพอต่อโรงพยาบาลที่ลูกน้อยจะเข้ารักษา กรณีเจ็บป่วย ซึ่งแน่นอนเบี้ยประกันก็จะค่อนข้างสูง ตามสถิติการเจ็บป่วยของเด็กวัยนี้ หรือ อาจจะเป็นประกันสุขภาพที่มี Limit ตาม Budget ของคุณพ่อคุณแม่ก็ได้นะคะ แต่ก็เลือกแพคเกจให้เหมาะสมกับเราและน้องที่สุดนะคะ
  • ประกันอุบัติเหตุ : แน่นอนอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ โดยที่เราไม่คาดคิดก่อน ใด ๆ หากมีประกันอุบัติเหตุสำหรับเด็กวัยนี้ติดไว้ในยามฉุกเฉิน ประกันฉบับนี้จะช่วยบรรเทาความกังวลของคุณพ่อคุณแม่ในการเข้ารักษา และช่วยค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่ได้ไม่มากก็น้อยเลยค่ะ
  • ประกันสมสมทรัพย์ หรือประกันออมทรัพย์ เป็นประกันที่สำคัญอีกฉบับหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำไว้ให้กับลูกน้อยเลย เป็นประกันเพื่อเก็บออมไว้เพื่อการศึกษา หรือเพื่อเงินออมในอนาคตของลูกเรา ก็ยังได้ค่ะ ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินและยังครอบคลุมถึงประกันชีวิตอีกด้วย

 

วัยเรียน (อายุ 6-20 ปี) 

ในวัยนี้อยู่ในวัยกำลังเติบโต ย่างเข้าสู่วัยรุ่น หรือเป็นวัยรุ่นแล้ว ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นคงไม่พ้นประกันอุบัติเหตุ อย่างแน่นอน เป็นช่วงวัยที่อย่างรู้อย่างลอง กำลังซุกซน อาจทำให้เสี่ยงเจ็บตัวจากอุบัติเหตุในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ซึ่งวัยนี้ก็อาจจะคล้าย ๆ กับประกันในช่วงวัยเด็ก และประกันที่ควรเลือกให้กับวัยนี้ คือ

  • ประกันอุบัติเหตุ : เป็นประกันที่สำคัญมาก ๆ ในช่วงวัยนี้ แอดมินขอแนะนำให้ มองหาแบบประกันอุบัติเหตุที่มีค่ารักษาพยาบาลสูง ๆ และไม่ต้องสำรองจ่ายเพื่อสะดวกในการเข้ารักษา ถ้ามีค่าชดเชยรายวันกรณีนอนเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มเติมด้วยก็จะดีมาก ๆ เลยค่ะ 
  • ประกันสุขภาพ : แอดมินก็ยังคงให้มีประกันสุขภาพติดตัวไว้เสมอ ๆ นะคะ เพราะโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ได้เลือกช่วงอายุ และเวลาที่เราจะเป็น!! อย่างน้อยถ้าเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็มี OPD การรักษาแบบผู้ป่วยนอกติดไว้น่าจะได้ใช้อย่างแน่นอนค่ะ
  • ประกันสมสมทรัพย์ หากมีประกันฉบับนี้ติดตัวไว้ ก็จะดีมาก ๆ เลยค่ะ เพื่อไว้วางแผนชีวิตและอนาคตสำหรับลูกในระยะยาวได้

ี้ย

วัยเริ่มทำงาน (อายุ 21-25 ปี) และ วัยสร้างตัว (อายุ 26-25 ปี)

การเลือกประกันของช่วงวัยนี้ ก็จะมาอีกข้ามมาอีกสเต็ปของช่วงการเติบโต วัยเพิ่งเริ่มทำงาน สร้างอาชีพ หรือบางคนก็อยู่ในช่วงศึกษาต่อฯ หรือสร้างครอบครัว เป็นต้น ซึ่งก็ต้องมีการวางแผนการซื้อประกันภัยให้เหมาะสม ตาม Life style ของตนเองด้วย และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีในช่วงที่เริ่มทำงานได้ด้วยค่ะ เช่น

  • ประกันสุขภาพ (ลดหย่อนได้): บางท่านก็อาจจะมีสวัสดิการของบริษัทอยู่แล้วหรือประกันสังคม อาจจะมองหา ประกันสุขภาพเพิ่มเติม (Top-up) ห้ความคุ้มครองที่เยอะขึ้น อาจจะเป็นประกันสุขภาพเหมาจ่าย อาจจะทำแบบมีความรับผิดส่วนแรกเพื่อให้เบี้ยประกันลดลงก็ได้ เพราะเพื่อน ๆ รู้ไหมคะ ว่า... หากเราทำประกันในช่วงอายุน้อย ๆ จะดีต่อตัวเองมาก ๆ บางท่านอาจจะมองไม่เห็นประโยชน์ อาจจะมองว่าจ่ายเบี้ยประกันทิ้งเปล่า!!  แต่รู้ไหมคะว่า ค่ารักษาพยาบาลสมัยนี้แพงขึ้น ๆ ทุกที การมีประกันสุขภาพถือติดตัวไว้ ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้ และหากบางท่านที่มีโรคประจำตัวในอนาคต ทำตั้งแต่ตอนนี้ก็จะเป็นการดี เพราะน้อยคนมากที่จะติดประวัติสุขภาพที่เป็นมาก่อน หรือ (Pre-exiting condition) ซึ่งบริษัทประกันจะไม่รับโรคที่เป็นมาก่อนนะคะ
  • ประกันอุบัติเหตุพ่วงชดเชยรายได้ : เป็นประกันที่ขาดไม่ได้ในอายุช่วงนี้เลย เพราะอย่างที่เราทราบกัน อุบัติเหตุเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทราบมาก่อน และการติดชดเชยรายได้ยามที่เราพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในโรงพยาบาล ก็จะมีเงินชดเชยรายวันที่เราขาดรายได้หรรือ ขาดงานมาทดแทนค่ะ
  • ประกันสะสมทรัพย์ (ลดหย่อนได้) : วัยนี้เหมาะกับการเก็บออมเงินมาก ๆ เพราะส่วนใหญ่วัยนี้เพิ่งเรียนจบและทำงาน มีรายได้ของตัวเองแล้วก็จะเปย์ให้ตัวเองแบบไม่อั้น ไม่ทันคิด เพราะฉะนั้นการเก็บออมเพื่ออนาคต อาจจะเก็บออมเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือสร้างครอบครัว การที่มีประกันสะสมทรัพย์ไว้ก็จะช่วยให้เรา Manage จัดการการเงินได้อย่างดีเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นประกันสะสมทรัพย์ที่แบบระยะสั้นหรือ ระยะยาว หากต้องการทำเพื่อลดหย่อน อย่างน้อยต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไปนะคะ

และบางคนอาจมองหาประกันที่เป็นเสาหลักให้ครอบครัวในอนาคต นั่นก็คือ ประกันชีวิต อาจจะทำแบบตลอดชีพก็ได้ (ทุนสูง เบี้ยกลาง ๆ ในวัยนี้และเบี้ยประกันคงที่ คุ้มครองระยะยาว) หรือ แบบประกันชั่วระยะเวลา (ทุนสูง เบี้ยต่ำและเบี้ยคงที่ คุ้มครองตามช่วงเวลาที่เลือกเอาประกัน) หรือ ประกันที่ควบการลงทุน ก็ได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่ชอบลงทุน และรับความเสี่ยงได้ค่ะ

 

วัยสร้างความมั่นคง (อายุ 30-50 ปี)

วัยนี้ก็ต้องการความมั่นคงอย่างจริงจัง และความพร้อมที่จะสร้างและดูแลครอบครัว อาจจะมีสินทรัพย์ตัวเองและ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือรถยนต์ ทั้งนี้ก้ต้องทำประกันสินเชื่อบ้าน(MRTA) ประกันอัคคีภัยสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย และประกันรถยนต์ ตามสินทรัพย์ที่เราครอบครองไว้ด้วยนะคะ และประกันที่ขาดไม่ได้ก็จะมีเหมือนวัยทำงานเลยตามที่กล่าวมาข้างต้น 

ไม่ว่าจะเป็น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันชดเชยรายได้ และประกันชีวิต (ตลอดชีพ ,ชั่วระยะเวลา Term หรือ แบบควบการลงทุน) ก็ได้เช่นกัน เป็นประกันที่สำคัญมาก ๆ อย่างน้อยก็มองเป็นประกัน Basic ที่ทุกคนในวัยนี้ต้องมีติดตัวไว้เลย และประกันอื่น ๆ ที่ควรเพิ่มเติมมา คือ

  • ประกันโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งทั้งระยะลุกลามและไม่ลุกลาม โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคร้ายอื่น ๆ อีกหลายโรคมาก ๆ เป็นประกันที่ควรมีเพิ่มเติมมาก ๆ อย่างยิ่งเลย
  • ต่อมาเป็นประกันบำนาญ ข้อดี คือ ไว้ใช้ยามเกษียณ คุ้มครองชีวิต แถมสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี (ปี2567) และหากทำในวัย 30 ต้น ๆ เบี้ยประกันบำนาญก็จะไม่แพงมาก แต่ถ้าคิดจะทำตอนใกล้เกษียณแล้ว แอนมินขอบอกไว้ก่อนนะคะ เบี้ยประกันก็จะค่อนข้างสูงเลยละค่ะ เพราะระยะเวลาสะสมก็น้อยแล้วด้วยค่า :) 

 

วัยก่อนเกษียณ (50  ขึ้นไป) และหลังเกษียณ (60 ขึ้นไป)

วัยนี้เตรียมวางรากฐานให้ชีวิตได้อย่างมั่นคงแล้ว ภาระต่าง ๆ เริ่มลดลง เพราะลูก ๆ ก็เติบโตและเริ่มเข้าสู่วัยทำงานกันบ้างแล้ว ซึ่งประกันสุขภาพก็ยังสำคัญมาก ๆ อยู่ ยังไงก็ควรจะมีติดตัวไว้นะคะ ซึ่งหากทำตั้งแต่วัยต้น ๆ แล้วก็จะสามารถวางแผนการจัดการทางเงินได้ และไม่ติดคำถามในส่วนของประวัติสุขภาพด้วย เนื่องจากวัยนี้ บางท่านอาจจะมีโรคที่ติดตัวมาบางแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม สุขภาพก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะที่ยากจะคาดเดาอีก เราคงไม่อยากควักเงินเก็บทั้งหมดที่เรามีทั้งหมดทั้งชีวิตมาเป็นค่ารักษาพยาบาลใช่ไหมคะ?

ซึ่งประกันในวัยนี้ที่แอดมินขอเน้นย้ำเลยคือ 

  • การทำประกันชีวิต (ไว้เพื่อคนข้างหลัง สร้างมรดกให้ลูกหลาน) พ่วงประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรงที่ให้ความคุ้มครองหลายกลุ่มโรค และประกันชดเชยรายได้ เข้าไปด้วยจะดีที่สุดค่ะ เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายและเราก็จะสามารถบริหารความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายได้ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
  • ประกันอุบัติเหตุ สำหรับวัยเริ่ม Senior ก็ควรมีติดตัวเพิ่มเติม กรณีลื่นล้ม อุบัติเหตุในห้องน้ำ หรือภายในบ้าน อาจเกิดขึ้นได้เสมอ การมีประกันอุบัติเหตุก็จะเซฟเงินในกระเป๋าได้ไม่มากก็น้อยเลยค่ะ และวัยนี้หากเกิดอุบัติเหตุแล้ว ควรจะต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทันทีทันใด ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ท่านต้องป่วย เจ็บต่อเนื่องระยะยาวได้เลยนะคะ อย่างน้อยเดี๋ยวนี้!! ถ้ากรณีเข้าโรงพยาบาลเอกชน ค่าใช้จ่ายที่แน่ๆ คือ 2,000 ขึ้นแน่นอนค่ะ และบริษัทประกันในยุดนี้ ก็จะมีการออกแบบประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองเราระยะยาว ๆ ยัน 100 ปีเลยนะคะ ยังไงลองศึกษากันได้ที่กรุงศรีโบกเกอร์ได้เลยนะคะ :)

 

สุดท้ายนี้จากบทความข้างต้นนี้ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ไอเดียในการตัดสินใจเลือกทำประกันไม่มากก็น้อยเลยนะคะ

ทางแอดมิน NANA กรุงศรีโบกเกอร์ ก็อยากให้ลองคิด และวางแผน ศึกษาแผนและเงื่อนไขความคุ้มครองต่าง ๆ ให้ละเอียดก่อน เพื่อจะได้เข้าใจและไม่ต้องเจอกับปัญหาที่จะตามมาในอนาคตนะคะ  

แอดมินขอย้ำว่า!! ก่อนจะตัดสินใจซื้อประกัน เพื่อน ๆ ลองคลิกเข้าไปดูแผนประกันของกรุงศรีโบกเกอร์ของเราสักหน่อยนะคะ ที่ Link นี้เลย https://www.krungsribroker.com

ซึ่งที่ Krungsri Broker ได้คัดสรรประกันที่ดี ความคุ้มครองที่ครบครัน โปรโมรชั่นจัดเต็ม และที่สำคัญบริษัทประกันที่มั่นคง เชื่อถือได้สามารถดูแลคุณได้อย่างยาวนานเลยละค่ะ และมีประกันที่ครอบคลุมทุกช่วงวัยให้มาตอบโจทย์กับ Life style เรา ๆ ในสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล มี Nursing care service ที่มีพยาบาลคอยช่วยเหลือในยามพักฟื้น และ การหาหมอแบบ telemed และมีการส่งยาของคนไข้ถึงที่บ้านท่านโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาลเลยก็มีน้า และหากเพื่อน ๆ ได้ใช้บัตรกรุงศรีฯ ใช้ UChoose Application อยู่แล้ว ตอนนี้เรา Feature ใหม่ ๆ ที่สามารถเข้าไป service ดูกรมธรรม์ในมือถือของเราได้ตลอดเลยนะคะ 

ทั้งนี้แอดมิน NANA ขอฝากประกันของ กรุงศรีโบกเกอร์ ไว้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการตัดสินใจทำประกันด้วยนะคะ และหากต้องการสอบถามหรือสงสัยเพิ่มเติมสามารถส่งมาที่ kgibsales@krungsri.com ได้เลยนะคะ หวังว่าเพื่อน ๆ จะชอบบทความนี้ ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ๆ สำเร็จสมหวังสมปรารถนากันทุกคนนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่า ^^

 

เขียนบทความโดย NANA

อ้างอิงบทความจาก

https://www.finnomena.com

https://www.itax.in.th