• หน้าแรก
  • ผลิตภัณฑ์
  • โปรโมชั่น
  • เพลินจิต
  • ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
คนรักรถยนต์

4 เคล็ด (ไม่ลับ) ดูแลรถอย่างไร เมื่อวันที่ฝนพรำ

วันที่เผยแพร่: 16 ก.ค. 66

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับท่านผู้อ่านเข้าสู่เทศกาลฝนพรำ เคยไหมคะ…..ฝนตกที่ไร ชีวิตส่วนใหญ่ทำไมมันติดแหง็กอยู่แต่ในรถ และทำไมฝนตกมักคู่กับรถติดเสมอ??? ไอ้ที่ตกปรอยๆ ก็คงไม่เท่าไหร่ แต่เวลาตกหนักนี้สิ กระจกแถบมองไม่เห็น ไหนจะน้ำท่วมเข้าไปอีก โอวโหวส์เธอส์ เจ็บจี๊ด……

ชีวิตประหนึ่งอยู่ในฤดูอกหัก บรรยากาศและสถานการชวนให้เศร้าจริงๆ หนักไปกว่า ไอรถที่รักประหนึ่งลูกในไส้ ต้องมานอนแช่น้ำขังบนท้องถนน เรียกได้ว่าคนแม่อย่างเราเห็นแบบนี้อาการเจ็บแผลผ่าคลอดกำเริบขึ้นมาทันที  กว่าฉันจะคลอดแกมาต้องเก็บหอมรอมริบเท่าไหร่  ไหนต้องผ่อนรายเดือนเพื่อเลี้ยงดูเจ้าให้เป็นเด็กดีอยู่ด้วยกันไปนานๆ มาเจอน้ำท่วมฝนตกสีรถซีดคนเป็นแม่น้ำตาตกในกันเลยทีเดียว ><’

วันนี้แอดมินแม่ลูกสอง…..เลยสรรหาเคล็ด(ไม่ลับ)ดีๆมาให้บรรดา พ่อๆ แม่ๆ ที่รักลูก(รถ)ในไส้ ได้มีความรู้ในการดูแลรักษา เลี้ยงดู ฟูมฟัก รถของเราให้อยู่ด้วยกันไปนานๆค่ะ

1.  ก้านปัดน้ำฝน เสมือนดวงตาของลูกรัก

     เป็นอุปกรณ์หลักเสมือนดวงตาของลูกเราเลย ดวงตาลูกเราต้องดูแลให้ดีเพราะมันจะมาช่วยในเรื่องการมองเห็นและวิสัยทัศนในการขับรถในหน้าฝนเลยแหละค่ะ หมั่นดูแลรถและตรวจสภาพใบปัดน้ำฝน ควรตรวจเช็ดในขณะที่กระจกยังคงเปียกอยู่ค่ะ ว่าเมื่อเราปัดน้ำฝนแล้วกระจกจะไม่เกิดเสียงดัง หรือปัดแล้วไม่เกิดคราบใดๆติดบนกระจกนะจ๊ะ เมื่อลองปัดแล้วกระจกเกิดมีรอย  ให้เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนทันที เพราะยางของใบปัดน้ำฝนเริ่มเข้าสู่ความเสื่อมสภาพแล้วค่า….

       ในส่วนของก้านใบปัดน้ำฝนเราทำความสะอาดแบบปกติทั่วไปคือใช้ผ้าชุบน้ำให้หมาดๆ แล้วนำมาเช็ดโดยเริ่มจากบนลงล่าง และตรวจดูว่าไม่มีสิ่งสกปรกใดติดค้างอยู่ หรือมีสิ่งใดติดอยู่ที่จะส่งผลให้เวลาเราปัดแล้วไปเกิดรอยขีดข่วนบนกระจกได้นะคะ

       เคยเห็นไหมค่ะ ทำไมเวลาเราเอารถเข้า car care บ้างทีเค้าชอบยกก้านปัดน้ำฝนขึ้น เราๆอาจจะเข้าใจว่าเพื่อทำให้มันแห้งเร็วขึ้น หรือใดๆ ก็ตาม แอดขอบอกไว้เลยค่ะว่า การที่เรายกก้านปัดน้ำฝนขึ้นนั้นจริงอยู่อาจทำให้ยางมันแห้งเร็วขึ้นได้ แต่ผลเสียมีมากกว่านั้นก็ คือ จะทำให้สปริงของก้านปัดน้ำฝนนั้นเสื่อมสภาพเร็วเข้าไปอีกนะคะ

2.    น้ำยาเคลือบกระจก เสมือนเลือกนมผงที่ดีให้กับลูก

       เรื่องนี้สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเทียบกับการเลี้ยงลูก เรื่องนี้เสมือนการเลือกยี่ห้อนมผงที่ดีที่สุดให้กับลูกเลยนะคะ กระจกหน้ามีฝุ่นเกาะนี้ตัวดีเลยทัศนียภาพอันแสนมัวหมอง เสมือนลูกเราได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ เราจึงจำเป็นต้องสรรหานมผง เอ้ยยย!! ไม่ใช่ๆๆ…..น้ำยาเคลือบกระจกเพื่อไว้เช็ดให้สะอาดใสปิ๊งอยู่เสมอ แล้วน้ำยาเคลือบไหนที่เหมาะกับรถของเรา วันนี้แอดเลยหยิบ 5 ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมาให้ดูกันเลยจ้า….

  • Rain X Original Glass Water Repellant ขนาด 473 มล. ราคาประมาณ 350 บาท
  • Karshine Rain-off ขนาด 150 มล. ราคาประมาณ 179 บาท
  • 3M Glass Coat Windshield ขนาด 200 มล. ราคาประมาณ 270 บาท
  • Glaco ขนาด 120 มล. ราคาประมาณ 260 บาท
  • Meguiar’s PerfectClarity Glass Sealant ขนาด 118 มล. ราคาประมาณ 390 บาท

ขอบคุณแหล่งที่มาเว็บไซต์: K@pook! อัพเดทราคา ณ วันที่ 26/5/2566

3.  ระบบเบรก เสมือนการเลือกผ้าอ้อมที่ดี

     ระบบเบรกกับการขับขี่รถยนต์หน้าฝนนั้นเป็นของคู่กันค่ะ เราต้องคอยดูแลลูกเราอยู่เสมอ ว่าผ้าอ้อม เอ้ยย….ไม่ใช่ๆๆ ผ้าเบรกของลูกเราสึกแล้วหรือไม่ โดยการสังเกตตอนเหยียบเบรกว่ามันจมลึกกว่าปกติหรือเปล่า หรือเราสังเกตตอนเบรกว่าลูกเรามีการดึงล้อหน้าไปด้านใดด้านหนึ่งหรือไม่ ถ้ามีก็ไปเข้าศูนย์ได้เลยค่ะ

4. ลมยางและยางรถยนต์ (เสมือนการเลือกขวดนมที่ดีให้กับลูก)

     ลมยางรถยนต์หรือสภาพของยางรถส่งผลต่อการขับขี่บนถนนที่มีน้ำขังมากๆนะคะ ถ้าเราขับรถด้วยความเร็วบนถนนที่เปียกลื่น ยางรถที่มีที่มีดอกยางจะสามารถยึดถนนในขณะเบรกได้ดีกว่ายางรถที่ดอกยางสึกแล้วค่ะ ส่วนการเติมลมยางให้พอดีก็ส่งผลให้ยางเกาะติดพื้นผิวถนนได้เช่นกัน เพราะงั้นแล้วมันเลยเสมือนการเลือกขวดนมที่ดีให้กับลูกรักของเรา และสิ่งที่ต้องทำเลยทุกครั้งก่อนขับขี่ อย่าลืมตรวจสอบว่ายางบวมไหม? มีรอยแตกที่เนื้อยางหรือป่าว? และที่สำคัญหมั่นเติมลมยางให้เหมาะสมกับขนาดล้อรถของเราด้วยนะจ๊ะ

 

สุดท้ายนะคะ เราก็ควรใช้ความระมัดระวัง ไม่ประมาท เคารพกฎจราจร มีน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง และไม่ควรใช้ความเร็วสูงจนเกินไป ควรใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ก็สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกันค่ะ รวมถึงยังต้องเตรียมตรวจสอบสภาพรถให้พร้อม เพื่อความมั่นใจก่อนการขับขี่ อย่าลืมนะคะ รถเราก็เหมือนลูกเรา ดูแลประคบประหงมเค้าให้ดี ให้เค้าได้อยู่กับเราไปนานๆ

ยิ่งตอนนี้พนักงานออฟฟิตส่วนใหญ่ก็จะ WFH กัน เลือกที่จะขับรถไปทำงานบ้างเป็นบางวัน หรือบางวันฝนตก เพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น ก็เลือกที่จะไม่ขับรถไปเลย สำหรับคนกลุ่มที่ขับรถน้อย แต่ยังคงกังวลว่าหากขับแล้ว ก็ยังอยากได้ความสบายใจที่จะไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หรือหากเกิดเหตุแล้วอะไรที่จะมาช่วยทำให้สบายใจขึ้น แอดแม่ลูกสองคนนี้มีสิ่งดีๆมาแนะนำกันค่ะ กับประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยสบายกระเป๋า แบบเบาหวิว ขับน้อยจ่ายน้อย ขับมากจ่ายมาก ขับเท่าไหน ก็จ่ายเท่านั้น เพราะเบี้ยประกันคิดตามจำนวนไมล์ มันจะดีจริงไหม? คิดราคาตามไมล์จริงๆหรอ? ในคำถามมีคำตอบ คลิกเพื่ออ่านความคุ้มครอง หรือทิ้งข้อมูลไว้ให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับได้ค่ะ คลิกที่นี้ >>https://shorturl.at/kADUY

เขียนบทความโดย: MAELUKSONG

ขอบคุณข้อมูลดี ๆประกอบบทความจาก:

https://car.kapook.com/view269101.html 

https://www.tlt.co.th/news-detail/nrYAEJePEp

https://www.yukonlubricants.com/take-care-your-car-in-rainy-season/

https://admirecar.com/article38.php