ลดหย่อนภาษีแบบอีซี่ ไม่ต้องยี้และไม่ต้องหนี
ฤดูจ่ายภาษีทีไรก็เบะปากกันทุกที เพราะแม้จ่ายภาษีจะเป็นหน้าที่ แต่หลายคนก็ยังกำหมัดแน่นเพราะเสียดาย และพยายามอย่างยิ่งที่จะหาวิธีลดหย่อนภาษีกัน เพื่อความอีซี่และไม่ยี้ เราจึงคัดมาให้แล้วเน้นๆ กับตัวช่วยที่น่าทำไว้เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองในอนาคตแน่นอน ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า เราต้องเสียภาษีเท่าไหร่กันนะ ปัจจุบันประเทศไทยใช้วิธีเสียภาษีแบบขั้นบันได
บุคคลธรรมดาต้องมีเงินได้เท่าไร? ถึงจะต้องเสียภาษีเกณฑ์เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำที่ผู้มีเงินได้ “ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี” แบ่งเป็นสำหรับคนโสดและคนที่สมรสแล้ว
หลักการคำนวณภาษี แบบสรุปสั้น ๆ คือ
ภาษีที่ต้องจ่าย = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูตัวเลือกลดหย่อนภาษีกันได้เลย...
1. ลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน
กองทุน RMF
ถ้ามองถึงการมีเงินใช้ตอนเกษียณ นึกถึง RMF เพราะชื่อก็ตรงตัวมาเลยว่ากองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหรือ Retirement Mutual Funds เป็นการออมเงินก้อนใหญ่ในระยะยาวสำหรับชีวิตหลังวัยทำงาน โดยให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยทบต้นได้ เลือกลงทุนได้หลากหลายเหมือนกองทุนรวม ตั้งแต่กองทุนที่มีเสี่ยงต่ำจนถึงความเสี่ยงสูง และเพราะต้องถือกันยาวๆ ไม่ขายจนกว่าจะอายุ 55 เลยมีนโยบายให้เราสามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนให้เหมาะกับสภาพตลาดในแต่ละช่วงได้
กองทุน SSF
Super Saving Funds เป็นกองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ทุกประเภท ทั้งหุ้นไทย หุ้นนอก กองทุนรวมผสมตราสารหนี้ฯ รู้กันดีว่ามาแทน LTF ที่หมดสิทธิ์ในการนำไปลดหย่อนภาษีแล้ว แต่ SSF จะมีตัวเลือกกองทุนหลากหลายกว่า และแตกต่างจาก RMF ตรงที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะสามารถขายคืนได้เมื่อครบ 10 ปี ไม่ต้องรอจนอายุ 55 ปี จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้มองเป็นการลงกองทุนเพื่อออมเงินสำหรับการเกษียณ แต่สามารถเป็นการออมเพื่อการลงทุนในอนาคตต่อได้
แน่นอนว่าประโยชน์จากกองทุนจะทำให้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่เข้าตาใครหลายคน แต่ก็ยังมีอีกวิธีที่อีซี่และมีประโยชน์ต่อชีวิตมากไม่แพ้กัน ก็คือ
2. การลดหย่อนภาษีด้วยประกัน
เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป และประกันแบบสะสมทรัพย์
มีเงื่อนไขว่าประกันจะต้องคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จึงจะสามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
เบี้ยประกันสุขภาพตัวเอง
เบี้ยประกันสุขภาพ สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท
*ส่วนถ้าเป็นเบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ จะลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท
เพราะว่าเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่ทำนายไม่ได้ และไม่มีใครหยั่งรู้ได้เลยว่าวันไหนเมื่อไหร่เราจะเจอแจ็คพ็อตอะไรบ้าง ประกันสุขภาพเลยเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี(มาก)ในการลดภาระและความเสี่ยงต่างๆ เมื่อเราเจ็บป่วยขึ้นมา เพราะหลายครั้งเราก็เจ็บจากค่ารักษามากกว่าที่ป่วยซะอีก