5 พฤติกรรม ทำแล้วรวย
วันที่เผยแพร่: 16 ก.ค. 67“การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนในตัวคุณเอง” - วอร์เรน บัฟเฟตต์” (Warren Buffett) ข้อคิดดีๆจากนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก และมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2023 “จงลงทุนในความรู้ จงลงทุนในสุขภาพของคุณ เพราะจะไม่มีใครมาแย่งมันไปจากคุณได้ การลงทุนแบบนี้ยิ่งลงทุน ยิ่งเติบโต ยิ่งดีขึ้น เป็นการลงทุนที่ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ใดๆทั้งปวง อย่าลืมว่าตัวคุณเองคือสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด” แม้ว่าเส้นทางสู่การเป็นเศรษฐีอาจไม่มีได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะมีหลักการเป็นแนวทางคล้ายๆกันที่จะพาคุณไปสู่เส้นทางที่จะทำให้ “รวย” ขึ้น มาดูกันค่ะว่า 5 พฤติกรรมอะไรที่จะทำแล้วรวย(ขึ้น)บ้าง
1. มีเป้าหมายที่ชัดเจน
การกำหนดเป้าหมายในชีวิตถือเป็นเรื่องแรกที่ควรวางไว้ เพื่อให้รู้ว่าเราต้องใช้เส้นทาง หรือวิธีไหนในการพาตัวเองไปถึงเป้าหมายได้ หากคุณอยากรวย(ขึ้น) กำหนดเป้าหมายเลยตั้งแต่ตอนนี้ โดยแบ่งเป้าหมายเป็น “ระยะสั้น กลาง และยาว”
เป้าหมายระยะสั้น (0-1 ปี) เก็บไว้สำรองค่าใช้จ่ายเวลาจำเป็นเผื่อตกงานหรือเวลาฉุกเฉินต่าง ๆ อย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน ควรเก็บไว้ที่บัญชีออมทรัพย์ หรือกองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund)
เป้าหมายระยะกลาง (3-7 ปี) เก็บไว้สำหรับของที่อยากได้ จำเป็น และสำหรับความฝันของตัวเองในอนาคต เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ เที่ยวต่างประเทศ ค่าเล่าเรียนตัวเอง แต่งงาน และค่าเทอมสำหรับบุตร ควรเก็บไว้ที่พันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวมตราสารหนี้/ผสม กองทุนรวมตราสารทุน อสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ
เป้าหมายระยะยาว (มากกว่า 7 ปีขึ้นไป) เก็บไว้เพื่อวัยเกษียณอายุหรือเป้าหมายทางการเงินระยะยาวขึ้นไป ควรเก็บไว้ที่ หุ้น กองทุนรวม กองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษี SSF และ RMF รวมไปถึงประกันชีวิต และสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ
แม้การกำหนดเป้าหมายยังไม่ได้ทำให้คุณรวยได้ในทันที แต่นี่ก็ถือเป็นบันไดขั้นแรกเลยนะ
2. สร้างวินัยให้ตัวเอง
เมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว เป้าหมายนั้นจะสำเร็จได้เมื่อเราตั้งใจทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอจนเกิดเป็นวินัย เพราะไม่มีความสำเร็จใดเกิดขึ้นได้หากขาดวินัย “วินัยทางการเงิน” ถือส่วนหนึ่งสำคัญของการเริ่มต้นที่จะพาเราไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ และนำทางไปสู่เส้นทางรวย เก็บ checklist 4 ข้อนี้ไว้ แล้วเริ่มต้นเลยตั้งแต่วันนี้
- จดบันทึกรายรับ/รายจ่าย จะทำให้รู้ว่าเราใช้เงินไปกับเรื่องไหนเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ เรื่องไหนควรลดและเมื่อไหร่ถึงเวลาที่ต้องหาเพิ่ม
- เก็บก่อนใช้ ออมให้เป็นนิสัยและแบ่งสัดส่วนการออมให้ตอบโจทย์กับชีวิตเรา
- ไม่สร้างหนี้เพิ่ม คิดก่อนใช้หากเรามีการแบ่งเงินเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนก็จะทำให้เรารู้ได้ว่าเรามีกำลังเพียงพอต่อการใช้จ่ายต่อครั้งเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นหนี้
- เริ่มต้นการลงทุน เรื่องนี้อาจะเป็นเรื่องที่เหมือนจะไกลตัวที่สุด แต่แท้จริงแล้วเราสามารถเริ่มต้นได้เลยคือการลงทุนกับตัวเองทั้งในการเรียนรู้ และสุขภาพ อย่างที่ Quote ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ บอกไว้ที่ข้างต้น
ถึงแม้จะดูเป็นวิธีง่ายๆแต่ก็ต้องใช้ความอดทนและความสม่ำเสมอทำอย่างต่อเนื่องจึงจะเกิดผลนะคะ
3. ไม่หยุดเรียนรู้
“ไม่มีใครแก่เกินเรียน” คำนี้ไม่เกินจริง ในโลกยุค 2000 การเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดไว้อยู่แต่ในห้องเรียนเท่านั้นแล้ว แต่เราสามารถเรียนรู้ทุกเรื่องที่สนใจได้ผ่านอินเตอร์เน็ต บนโลกออนไลน์มีเรื่องราวมากมายที่เราสามารถเข้าถึงได้ไม่ว่าจะเพื่อความรู้ หรือความบันเทิงก็ตาม ซึ่งแน่นอน “การเรียนรู้” ถือเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนกับตัวเองที่ไม่มีวันขาดทุน และเมื่อไหร่ที่เริ่มต้นเรียนรู้คุณก็เป็นคนที่รวยความรู้ขึ้นจากเดิมแล้ว
4. เข้าใจการลงทุน
จากเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้คุณจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในระยะใด “การลงทุน” ก็ดูจะเป็นคำตอบให้เราได้ ซึ่งนอกจากผลตอบแทนในการลงทุนที่ได้รับแล้ว สิ่งที่ต้องประเมินด้วยก็คือความเสี่ยงที่จะมาควบคู่กันอยู่เสมอ และจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับประเภทของการลงทุนที่เราเลือก นั่นคือเหตุผลทำให้เราต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนที่มากพอเพื่อให้วันหนึ่งเราจะเป็นคนที่ “ให้เงินทำงาน” แทนการ “ทำงานเพื่อหาเงิน”
5. ใส่ใจสุขภาพ
แน่นอนว่า “สุขภาพที่ดี” ไม่มีใครให้คุณได้นอกจากคุณจะต้องทำมันด้วยตัวเอง 4 ปัจจัยของการมีสุขภาพที่ดีนั้นประกอบด้วย การออกกำลังกาย อาหาร การพักผ่อน และการจัดการความเครียด เชื่อว่าปัจจัยทั้ง 4 ข้อนี้ทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร แต่เรื่อง “การจัดการความเครียด” น่าจะเป็นเรื่องที่หลายๆคนคงทำได้ยากที่สุดและความเครียดจากการเจ็บป่วยของสุขภาพไม่ว่าจะของตนเอง หรือคนในครอบครัว ก็ถือเป็นเรื่องที่ทำให้เครียดได้มากที่สุดอีกเรื่อง หากจะกำจัดความเครียด หรือแบ่งเบาภาระจากเรื่องสุขภาพนั้นก็ควรจะวางแผนในการดูแลสุขภาพไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเมื่อเกิดความเจ็บป่วยขึ้นมาแล้วอย่างน้อยก็ไม่ต้องเครียดกับเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาอีก ด้วยการทำประกันสุขภาพให้เหมาะสมกับช่วงวัย ความเสี่ยงที่มี และกำลังการชำระเบี้ยของเราเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีประกันสุขภาพมากมายหลากหลายแบบถ้าจะเปรียบเทียบให้เหมาะตัวเอง แอดมินขอแนะนำ กรุงศรีเจเนอรัล อินชัวร์รันส์ โบรกเกอร์ เพราะมีแบบประกันให้เลือกจากหลากหลายบริษัทประกันภัย รับรองว่าจะช่วยจัดการความเครียดในเรื่องสุขภาพได้อย่างแน่นอนค่ะ
แหล่งที่มา
: https://www.finnomena.com/z-admin/20-warren-buffett-quotes/
https://www.finnomena.com/preecha_manop/financial-planning-for-beginner/
เรียบเรียงบทความ โดย : เพลินเพลิน
