• หน้าแรก
  • ผลิตภัณฑ์
  • โปรโมชัน
  • เพลินจิต
  • ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
รอบรู้เรื่องประกัน
อื่นๆ

5 โรคยอดฮิตของเด็กน้อย ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมรับมือ

วันที่เผยแพร่: 16 ต.ค. 67

วันนี้กรุงศรีโบกเกอร์ขอนำสาระความรู้ที่เกี่ยวกับโรคในเด็กน้อยวัยเบบี๋ จนถึงวัยที่ต้องเข้าโรงเรียน ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเคยพบ หรือเคยได้ยินกันมาบ้าง ซึ่งอาจจะเกิดการระบาดในห้องเรียน หรือการทำกิจกรรมต่างๆ ก็เป็นได้ ซึ่งโรคเหล่านี้อาจหลีกเลี่ยงได้ยาก ต้องดูแลใส่ใจในเรื่องของสุขภาพเป็นพิเศษ หมั่นดูแลสุขอนามัยอยู่เสมอ เพราะระบบภูมิต้านทานในร่างกายของเด็ก ๆ นั้นอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรพาเด็ก ๆ ไปฉีดวัครซีนที่จำเป็นให้ครบถ้วนตามช่วงวัย ก็อาจจะช่วยป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคได้บ้าง และเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เข้าใจและเตรียมรับมือกับโรคนั้น ๆ มาดูกันเลยค่ะ ว่ามีโรคอะไรบ้าง

 

1.     โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus)

ไวรัส RSV เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มักพบในเด็กเล็กและเด็กที่เข้าโรงเรียน ไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายได้ง่ายในช่วงอากาศชื้นและเย็น ผ่านจากการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในโรคเด็กยอดฮิตที่สามารถติดต่อกันได้ง่ายมาก อาจใช้สถานที่หรือสัมผัสสิ่งของบริเวณที่ใกล้กันก็จะเป็นได้

ลักษณะอาการ : มีอาการคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เช่น ไอ จาม มีน้ำมูกใส ๆ หายใจลำบาก มีเสียงตอนนอนที่ไม่ปกติ (เสียงหวีด เสียงครืดคราด ๆ ) คัดจมูก ไข้สูงผิดปกติ เหนื่อยหอบและหายใจเร็ว ไอหนัก ๆ แต่สำหรับเด็กเล็กบางราย อาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นปอดอักเสบได้ เกิดภาวะแทรกซ้อนในระบบทางเดินหายใจ อาจทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบได้ หลอดลมฝอยอักเสบ ไปจนถึงหัวใจล้มเหลวได้ หากมีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์ในทันที

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา เพราะจริง ๆ แล้ว อาการขั้นแรกจะคล้ายไข้หวัดธรรมดาเลย หมั่นทำความสะอาดมือ ของเล่น ของใช้ลูกอยู่เป็นประจำนะคะ

 

2.     โรคมือ เท้า ปาก

โรคมือเท้าปากเป็นอีกโรคหนึ่งที่เด็ก ๆ ทุกคนมีความเสี่ยงง่ายและมักระบาดในฤดูฝน โรคนี้จะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและผิวหนังจากเชื้อไวรัส และสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสและละอองคัดหลั่ง หรือสัมผัสกับสิ่งของปนเปื้อนเชื้อที่มือ ของเล่น น้ำ อาหาร

ลักษณะอาการ : โรคนี้มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเริ่มจากอาการมีไข้ พร้อมผื่นตุ่มใสขึ้นบนปาก ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม รวมถึงฝ่ามือ ฝ่าเท้าบนร่างกาย อาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย เบื่ออาหาร ซึ่งควรสังเกตอาการให้ดี หากเป็นแล้วจะแพร่เชื้อได้  2-3 วัน ก่อนมีอาการจนถึง 1-2 สัปดาห์ เด็กบางรายอาจะมีอากอาการแทรกซ้อนได้ซึ่งพบน้อยมาก เช่น สมองอักเสบ, กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เป็นต้น

ทั้งนี้การป้องกันโรคมือเท้าปาก หมั่นดูแลทำความสะอาดลูกอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาด

 

3.     โรคเฮอร์แปงไจนา (Herpangina)

เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับ มือ เท้า ปาก แต่มีความต่าง คือ มีแผลเฉพาะบริเวนปากเท่านั้น เป็นโรคติดต่อได้จากการแพร่กระจายหรือการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย สารคัดหลั่ง และอุจจาระ ของคนที่มีเชื้อ เพราะบางครั้งอาจสัมผัสแล้วนำมือเข้าปาก แล้วเผลอรับประทานเข้าไป สามารถทำให้ติดเชื้อได้

ลักษณะอาการ : กลุ่มเสี่ยงของโรคนี้จะเป็นมากในเด็กที่อายุน้อยกว่า 10  ปี มีอาการไอและจาม และเจ็บปวดในช่องปาก (บริเวณเพดานปากและคอมาก่อน ต่อมาจะมีจุดแดง ๆ บริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ และอาจมีตุ่มแดงที่ทอนซิล หรือบริเวณในลำคอด้วยก็ได้ อาจเป็นแผลเล็ก ๆ หรืออาจมีการอักเสบรอบ ๆ แผลได้ จำนวน 5 – 10 ตุ่ม) ปวดศีรษะ ปวดตามลำตัว บางรายอาจมีไข้ร่วมกับอาเจียน และอาจจะมีไข้สูงถึง 40 องศาเซลเซียส เบื่ออาหาร และมีผื่นขึ้น อาการหลังได้รับเชื้อจะประมาณ 3-14 วัน และหากเด็กติดเชื้อแล้วจะแพร่เชื้อได้ตั้งแต่วันแรกที่ติดเชื้อไปจนกว่าจะหายจากโรค คือ ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์นับจากติดเชื้อ

ทั้งนี้ควรหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอและป้องกันการแพร่เชื้อโดยไม่ใช้อุปกรณ์และภาชนะในการรับประทานและดื่มน้ำร่วมกับผู้อื่น แยกเด็ก ไม่ควรพาออกไปข้างนอก ควรให้งดไปโรงเรียน 1 สัปดาห์หรือมากกว่าแล้วแต่อาการ เพราะอาจจะแพร่เชื้อไปสู่เด็กอื่นได้ อย่างไรก็ตามควรพบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการให้เร็วที่สุดค่ะ

 

4.     โรคอุจจาระร่วงหรือโรคท้องเสียจากไวรัส

โรคอุจจาระร่วง หรือโรคท้องเสียเป็นโรคระบาดในเด็กอีกโรคหนึ่งอาจเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย สามารถระบาดได้อย่างรวดเร็ว แม้ร่างกายจะได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ตาม โดยมาจากการทาน หรือดื่มอาหารที่ติดเชื้อ สามารถติดต่อได้ผ่านทางอากาศ

ลักษณะอาการ : พบมากในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อาการเบื้องต้นท้องเสียมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน มีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว หรือมีอาเจียนร่วมด้วย คลื่นไส้ มีไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งหากเด็กเป็นโรคนี้ อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ จึงควรไปพบแพทย์ในทันทีค่ะ

คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันได้ หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่หรือเจลล้างมือ กำจัดขยะมูลฝอย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวัน และใส่ใจเรื่องการกิน รับประทานอาหารที่ปรุง “สุกใหม่ ๆ ร้อน และสะอาด” นะคะ

 

5.     โรคไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่นี่ ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก มักจะเจอและระบาดได้ในช่วงอากาศที่เย็นและมีความชื้นในช่วงหน้าฝน เป็นโรคติดต่อทางระบบหายใจจากเชื้อ influenza Virus สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ ผ่านละอองฝอยจากการไอ จาม หรือบางครั้งเด็กอาจจะไปติดมาจากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนก็เป็นได้เพราะสามารถติดได้กันง่ายมาก เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงมากพอ

ลักษณะอาการ : เด็กจะมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกใส ๆ จาม คอแห้ง เจ็บคอ เป็นไข้ อาจจะไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียสอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอแห้ง ไอมีเสมหะ โดยเชื้อจะใช้เวลาฟักตัว 1-4 วัน หากอาการรุนแรงและลุกลามอาจมีโรคแทรกซ้อนที่มากับไข้หวัดก็คือ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือ ปอดอักเสบได้ บางรายอาจมีอาการอาเจียนร่วมกับท้องเสีย อย่างไรก็ตามควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรประมาทกับอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูก การป้องกันเบื้องต้น คือ การดูแลความสะอาด หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์รวมถึงใส่หน้ากากอนามัยในที่พื้นที่สาธารณะ เพื่อป้องกันการติดต่อ นอกจากนี้ควรพาลูกไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี

 

             สุดท้ายนี้จากบทความข้างต้นนี้ หวังว่าคุณพ่อคุณแม่ จะได้ความรู้และลักษณะอาการของ 5 โรคยอดฮิตของเด็ก ๆ ที่พึงระวังไว้ เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้เตรียมรับมือกันนะคะ และทางแอดมิน กรุงศรีโบกเกอร์ ขอมาแนะนำตัวช่วยที่มาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่ กรณีเจอโรคภัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพไม่ว่าจะป่วยเล็ก ป่วยน้อยมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้อุ่นใจ สบายใจ มากยิ่งขึ้นนะคะ นั่นก็คือ

ประกันสุขภาพจาก อัลติเมต เฮลท์ จากบมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต >> รับตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถซื้อได้เช่นกันมี แพคเกจ..ประกันชีวิตเสียชีวิตทุกกรณี พ่วงค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน(IPD)เหมาจ่ายและผู้ป่วยนอก(OPD) ยกระดับ ด้วยวงเงินค่ารักษาเพิ่มขึ้น 50% กรณีเจ็บป่วยด้วย 3 โรคร้าย และฟรีบริการ Nursing Care service ผู้ช่วยพยาบาลดูแลหลังออกจากโรงพยาบาลอีกด้วยนะคะ ครบจบในแพคเกจเดียวในราคาสบายกระเป๋ามีทั้งจ่ายเป็นรายเดือนและรายปี

*อย่างไรสามารถกรอกข้อมูลเพื่อเช็คเบี้ยประกันเบื้องต้นได้เลยนะคะ >> Krungsribroker.com

ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ลองศึกษาแผนและเงื่อนไขความคุ้มครองต่าง ๆ ให้ละเอียด ก่อนตัดสินใจซื้อประกันด้วยนะคะ หากต้องการสอบถามหรือสงสัยสามารถส่งมาที่ kgibsales@krungsri.com ได้เลยนะคะ หวังว่าคุณพ่อคุณแม่ จะชอบบทความนี้ ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ๆ กันทุกคนนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่า ^^

 

 

เขียนบทความโดย NANA

อ้างอิงบทความจาก

https://www.paolohospital.com

https://www.phyathai.com

https://www.bangpakok1.com

https://www.synphaet.co.th